( โบราณ) เชเชน: къолам เชอโรกี: ᏗᎪᏪᎶᏗ ( ตีโกเวโลตี) ซาคา: харандаас ( xarandaas) ซาซา: qelem ญ. ซามัว: penitala ซิซิลี: lapis ช. ซุนดา: potlot เซอร์โบ-โครเอเชีย: ซีริลลิก: оловка ญ., писаљка ญ. ละติน: olovka (sh) ญ., pisaljka (sh) ญ. โซมาลี: qalin qori ไซลีเซีย: blajsztyft ช. ญี่ปุ่น: 鉛筆 (ja) ( えんぴつ, enpitsu) ดัตช์: potlood (nl) ก. เดนมาร์ก: blyant (da) ร. ตากาล็อก: lapis ตาตาร์: каләм (tt) ( qaläm) ตาตาร์แบบไครเมีย: qarandaş ตึกรึญญา: ርሳስ ( รือซัซฺ) ตุรกี: kurşun kalem (tr), kalem (tr) เตตุม: lapis เตลูกู: పెన్సిలు (te) ( เป็นฺสิลุ) เติร์กเมน: galam ทมิฬ: எழுதுகோல் (ta) ( เอะฬุ̄ตุโกลฺ) ทาจิก: қалам (tg) ( qalam), мидод (tg) ( midod) ทิเบต: ཞ་སྨྱུག ( ซ̱ สฺมฺยุค) ไทลื้อ: ᦔᦲᧉᦎᦱᧃᧈ ( ปี้ต่าน) นอร์มัน: crèyon ช. นอร์เวย์: blyant (no) นาวาโฮ: bee'ak'e'elchíhí เนปาล: सिसाकलम ( สิสากลม) บัลแกเรีย: мо́лив (bg) ช. ( móliv), моли́в (bg) ช. ( molív) บาสก์: arkatz, lapitz เบงกอล: পেনসিল ( เปนสิล), অঙ্কনী ( องฺกนี) เบลารุส: ало́вак ช. ( อาลอ̂́ฝัก), каранда́ш ช. ( การันดั́ฌ) แบชเคียร์: ҡәләм ( qäläm) โบล: pensur ปัญจาบ: ਪੈਨਸਿਲ ( ไปนสิล) ปาทาน: پنسل ( pensél) เปอร์เซีย: مداد (fa) ( medâd) โปรตุเกส: lápis (pt) ช.
๖. เรื่องพระสารีบุตรเถระ [๗๖] ข้อความเบื้องต้น พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระสารีบุตร- เถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ปฐวีสโม" เป็นต้น. พระสารีบุตรถูกภิกษุรูปหนึ่งฟ้อง ความพิสดารว่า ในสมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตร ออกพรรษาแล้ว ใคร่จะหลีกไปสู่ที่จาริก จึงทูลลาพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายบังคมแล้ว ออกไปกับด้วยบริวารของตน. ภิกษุทั้งหลายมากแม้อื่นตามส่งพระเถระ แล้ว. ก็พระเถระปราศรัยกะภิกษุทั้งหลายผู้ปรากฏอยู่ ด้วยสามารถชื่อ และโคตร ตามชื่อและโคตรแล้วจึงบอกให้กลับ. ภิกษุผู้ไม่ปรากฏ ด้วยสามารถชื่อและโคตรรูปใดรูปหนึ่ง คิดว่า "โอหนอ พระเถระ น่าจะยกย่องปราศรัยกะเราบ้าง ด้วยสามารถชื่อและโคตร แล้วพึงให้กลับ. " พระเถระไม่ทันกำหนดถึงท่าน ในระหว่างแห่งภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก. แม้ ภิกษุนั้นผูกอาฆาตในพระเถระว่า "พระเถระไม่ยกย่องเรา เหมือนภิกษุ ทั้งหลายอื่น. " มุมสังฆาฏิแม้ของพระเถระถูกสรีระของภิกษุนั้นแล้ว. แม้ ด้วยเหตุนั้น ภิกษุนั้นก็ผูกอาฆาตแล้วเหมือนกัน. ภิกษุนั้นรู้ว่า " บัดนี้ พระเถระจักล่วงอุปจารวิหาร" จึงเข้าไปเฝ้าพระศาสดากราบทูลว่า "พระ- เจ้าข้า ท่านพระสารีบุตรประหารข้าพระองค์เหมือนทำลายหมวกหู ไม่ยัง ข้าพระองค์ให้อดโทษแล้ว หลีกไปสู่ที่จาริก" ด้วยสำคัญว่า "เป็น อัครสาวกของพระองค์. "
จุฬาเปิดอบรมหลักสูตร Business Analysis Program รุ่นที่ 78 "17 พ. ย. - 2 ธ. ค. 63" โรงแรมตวันนา (สุรวงศ์) ร่วมวางแผนองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการวิเคราะห์ธุรกิจ รู้ลึก! รู้จริง! ด้านเศรษฐกิจโลก ด้วยหลักการบริหารจัดการพื้นฐาน ทั้งด้านการตลาด การเงินและการลงทุน รวมถึงปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ
ไอย์มารา: lapisa ไอริช: peann luaidhe ช. ฮังการี: ceruza (hu) ฮินดี: अंकनी ญ. ( อํกนี) ฮีบรู: עיפרון \ עִפָּרוֹן (he) ช. ( iparón) ฮุนสริก: Bleistift ช., Lappis ช. เฮาซา: fensir (ha) ไฮติครีโอล: kreyon
ลำดับนั้น พวกเทวบุตรนั้นเมื่อจะบอกเจ้าของวิมานแก่พระเถระนั้น จึงกล่าวว่า " ท่านผู้เจริญ วิมานั่นเกิดแล้วเพื่อประโยชน์แก่บุตรคฤหบดี ชื่อนันทิยะ ผู้สร้างวิหารถวายพระศาสดา ในป่าอิสิปตนะ. " ฝ่ายหมู่นาง อัปสร เห็นพระเถระนั้นแล้ว ลงจากปราสาทกล่าวว่า " ท่านผู้เจริญ พวก ดิฉันเกิดในที่นี้ ด้วยหวังว่า ' จักเป็นนางบำเรอของนายนันทิยะ ' แต่เมื่อ ไม่พบเห็นนายนันทิยะนั้น เป็นผู้ระอาเหลือเกิน; ด้วยว่าการละมนุษย- สมบัติ แล้วถือเอาทิพยสมบัติ ก็เช่นกับการทำลายถาดดินแล้วถือเอาถาด ทองคำฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าพึงบอกเขา เพื่อประโยชน์แก่การมา ณ ที่นี้. " ทิพยสมบัติเกิดรอผู้ทำบุญ พระเถระกลับมาจากเทวโลกนั้นแล้ว เขาไปเฝ้าพระศาสดาทูลถามว่า " พระเจ้าข้า ทิพยสมบัติย่อมเกิดแก่บุคคลผู้ทำความดีที่ยังอยู่มนุษย์โลกนี่ เอง หรือหนอแล? " พระศาสดา. โมคคัลลานะ ทิพยสมบัติที่เกิดแล้วแก่นายนันทิยะใน เทวโลก อันเธอเห็นแล้วเองมิใช่หรือ? ไฉนจึงถามเราเล่า? โมคคัลลานะ. ทิพยสมบัติเกิดได้อย่างนั้นหรือ? พระเจ้าข้า. ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะพระเถระนั้นว่า โมคคัลลานะ เธอ พูดอะไรนั่น? เหมือนอย่างว่า ใคร ๆ ยืนอยู่ที่ประตูเรือน เห็นบุตร พี่น้อง ผู้ไปอยู่ต่างถิ่นมานาน (กลับ) มาแต่ถิ่นที่จากไปอยู่ พึงมาสู่เรือน โดยเร็ว บอกว่า ' คนชื่อโน้น มาแล้ว. '
( อาคม, " การมาถึง ") อาคม ช. การมา, การมา ถึง บาลี, คัมภีร์ พยัญชนะ ที่ แทรก เข้า ไป การผันรูป [ แก้ไข]
นางรับว่า " ดีละ " แล้วทำทีเป็นผู้มีศรัทธาบำรุงอยู่ ๒ - ๓ วัน จนคลอดบุตร ๒ คน. มารดาบิดาแม้ของนายนันทิยะ ได้ทำกาละแล้ว. ความเป็นใหญ่ทั้งหมดในเรือน ก็ตกอยู่แก่นางเรวดีนั้นคนเดียว. นันทิยะดำรงตำแหน่งทานบดี จำเดิมแต่มารดาบิดาทำกาละ แม้นายนันทิยะก็เป็นมหาทานบดี เตรียมตั้งทานสำหรับภิกษุสงฆ์. และเริ่มตั้งค่าอาหารแม้สำหรับคนกำพร้า และคนเดินทางเป็นต้น ไว้ที่ประตูเรือน. ในกาลต่อมา เขาฟังพระธรรม- เทศนาของพระศาสดา กำหนดอานิสงส์ในการถวายอาวาสได้แล้ว ให้ทำ ศาลา ๔ มุข ประดับด้วยห้อง ๔ ห้อง ในมหาวิหารในป่าอิสิปตนะแล้ว ให้ลาคเตียงและตั่งเป็นต้น เมื่อจะมอบถวายอาวาสนั้น ได้ถวายทานแก่ ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข แล้วถวายน้ำทักขิโณทก แด่ พระตถาคต. ปราสาททิพย์สำเร็จโดยรัตนะ ๗ ประการ สมบูรณ์ด้วยหมู่ นารี มีประมาณ ๑๒ โยชน์ในทิศทั้งปวง เบื้องบนสูงประมาณ ๑๐๐ โยชน์ ผุดขึ้นในเทวโลกชั้นดาวดึงส์ พร้อมด้วยการตั้งน้ำทักขิโณทก ในพระหัตถ์ ของพระศาสดาทีเดียว. พระมหาโมคคัลลานะไปเยี่ยมสวรรค์ ภายหลังวันหนึ่ง พระมหาโมคคัลลานเถระไปสู่ที่จาริกในเทวโลก ยืนอยู่แล้วในที่ไม่ไกลจากปราสาทนั้น ถามเทวบุตรทั้งหลายซึ่งมาสู่สำนัก ของตนว่า " ปราสาททิพย์ เต็มด้วยหมู่นางอัปสรนั่น เกิดแล้วเพื่อใคร. "
๙. เรื่องนายนันทิยะ [๑๗๓] ข้อความเบื้องต้น พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในป่าอิสิปตนะ ทรงปรารภนายนันทิยะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " จิรปฺปวาสึ " เป็นต้น. นันทิยะเป็นอนุชาตบุตร ได้ยินว่า ในกรุงพาราณสี ได้มีบุตรแห่งตระกูลซึ่งถึงพร้อมด้วย ศรัทธาคนหนึ่งชื่อนันทิยะ, เขาได้เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศรัทธาบำรุงสงฆ์แท้ อนุรูปแก่มารดาบิดาเทียว. ครั้นในเวลาที่เขาเจริญวัยมารดาบิดาได้มี ความจำนงจะนำธิดาของลุงชื่อว่าเรวดี มาจากเรือนอันตรงกันข้าม. แต่ นางเป็นคนไม่มีศรัทธา ไม่มีการให้ปั่นเป็นปกติ, นายนันทิยะจึงไม่ ปรารถนานาง. ลำดับนั้น มารดาของเขากล่าวกะนางเรวดีว่า " แม่ เจ้าจงฉาบทา สถานที่นั่นของภิกษุสงฆ์ แล้วปูลาดอาสนะไว้ในเรือนนี้, จงตั้งเชิง บาตรไว้. ในเวลาภิกษุทั้งหลายมาแล้ว จงรับบาตร นิมนต์ให้นั่ง เอา ธมกรกกรองน้ำฉันถวาย แล้วล้างบาตรในเวลาฉันเสร็จ; เมื่อเจ้าทำได้ อย่างนี้ ก็จักเป็นที่พึ่งใจแก่บุตรของเรา. " นางได้ทำอย่างนั้นแล้ว. ต่อมา มารดาบิดาเล่าถึงความประพฤติของนางนั้นแก่บุตร ว่า " นางเป็นผู้อดทน ต่อโอวาท " เมื่อเขารับว่า " ดีละ " จึงกำหนดวันแล้ว ทำอาวาหมงคล. ลำดับนั้น นายนันทิยะกล่าวกะนางว่า " ถ้าเธอจักบำรุงภิกษุสงฆ์ และมารดาของฉัน, เป็นเช่นนี้ เธอก็จักได้พัสดุในเรือนนี้, จงเป็นผู้ไม่ ประมาทเถิด. "