ปาร์ตี้หนัก งานยุ่ง นอนน้อยไปหน่อย ผลที่ตามมาติดๆก็คือ ผิวที่อ่อนล้า หมองคล้ำ แม้จะลงเมคอัพกี่ชั้นก็ยังเอาไม่อยู่ เปลี่ยนจากการตบแป้งหนาๆมาฟื้นฟูสภาพผิวกันดีกว่าคะ เคล็ดไม่ลับกับการแก้ผิวอ่อนล้า หมองคล้ำ ไม่สดใส 1. เริ่มด้วยการจัดการกับรอยคล้ำใต้ตา ใครที่ส่งกระจกแล้วเริ่มสังเกตเห็นว่าผิวบริเวณรอบดวงตาดูล้าๆ หมองคล้ำ ไม่สดใสเอาเสียเลย วิธีแก้ที่ง่ายที่สุดคือ การเติมความชุ่มชื้นเข้าสู่ร่างกายให้เพียงพอด้วยการดื่มน้ำให้เยอะๆ ควบคู่ไปกับการบำรุงผิวบริเวณรอบดวงตาด้วยอายครีม หรือ อายเซรั่ม ให้เลือกใช้สูตรที่ช่วยเพิ่ม และเก็บกักความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เซรั่มจะช่วยฟื้นฟูผิวบริเวณรอบดวงตาให้แลดูกระจ่างใส ไม่แห้งกร้าน 2. มาร์คผิว การมาร์คผิวหน้า และผิวกายเป็นอีกขั้นตอนสำคัญที่สามารถช่วยคืนความสดใสให้กับผิวพรรณได้อย่างดี การมาร์คผิวจะ ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้ลอกหลุดออกไป พร้อมกระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ควรเลือกใช้มาร์คสูตรที่มีส่วนผสมของวิตามินานาชนิด น้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติ อาทิ น้ำมันอโวคาโด เพราะจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวพรรณแลดูกระจ่างใสขึ้น 3. เช็ดผิวหน้าด้วยโทนเนอร์ นอกจากจะล้างหน้าให้สะอาดหมดจดด้วยผลิตภัณท์ล้างหน้าแล้ว ให้เช็ดหน้าอีกรอบด้วยโทนเนอร์ เพื่อให้มั่นใจว่าผิวสะอาดไร้สิ่งสกปรกตกค้าง และอุดตันในรูขุมขน ประโยชน์อีกอย่างของโทนเนอร์ก็คือช่วยเปิดรูขุมขน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ครีมบำรุงสามารถซึมซับเข้าสู่ผิวชั้นในได้อย่างรวดเร็ว และล้ำลึกขึ้น ทราบไหม ว่าการล้างหน้าให้สะอาดหมดจดช่วยทำให้ผิวใสได้กว่าครึ่งเลยนะ 4.
การมีผิวหน้าขาวสว่างใส ไร้ริ้วรอย จุดด่างดำ คือสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันเอาไว้ แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ ด้านที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับผิวหน้า จึงทำให้มีอีกจำนวนไม่น้อยกำลังต้องเผชิญกับปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ดูโทรม แถมยังมักมีคนทักว่าหน้าแก่เกินอายุอีกต่างหาก เรื่องแบบนี้ถือเป็นสิ่งที่ยอมกันไม่ได้จริง ๆ ยิ่งเวลามองไปเห็นใครที่หน้าขาวใสก็รู้สึกอิจฉา ทำไมไม่เกิดขึ้นกับตนเองบ้าง นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่กำลังบ่งบอกว่าทุกคนควรหันมาใส่ใจกับความหล่อสวยบนใบหน้าของตนเองให้มากขึ้น เริ่มต้นด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา แล้วถ้าเกิดหน้าหมองคล้ำ ใช้อะไรดี? มีคำตอบ หน้าหมองคล้ำ ใช้อะไรดี?
00 น. – 16.
ผิวหน้าหมองคล้ำ เพราะล้างหน้าไม่สะอาด ถึงแม้ว่าช่วง Work from home เราจะไม่ค่อยได้แต่งหน้าออกไปไหน แต่ถ้าหากเราไม่เช็ดผิวก่อนล้างหน้า หรือล้างคราบสกปรกออกไม่หมด สิ่งสกปรกเหล่านั้นก็จะตกค้างอยู่ภายในรูขุมขน และเมื่อสิ่งสกปรกตกค้างและอุดตันอยู่ภายในรูขุมขน ก็จะทำให้ผิวเรามีริ้วรอย ผิวเหี่ยว ผิวหน้าเราหมองคล้ำ เสื่อมโทรม ไม่สดใส และเป็นสิวอุดตันได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้น... ถึงแม้เราจะไม่ได้แต่หน้า เราก็ควรล้างหน้าให้สะอาด ล้างให้ครบทุกขั้นตอน และล้างแบบถูกวิธีด้วยนะคะ 6. ไม่สครับผิวหน้า.. ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ จริง ๆ แล้ว ผิวของเราจะผลัดเซลล์ผิวเองอยู่แล้วนะคะ แต่ถ้าเราเริ่มอายุเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ผิวของเราจะผลัดเซลล์ผิวเองได้ช้าลงมาก ซึ่งเมื่อเซลล์ผิวผลัดได้ช้าลง ก็จะทำให้ผิวของเราเกิดริ้วรอยได้เร็ว ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส สีผิวไม่สม่ำเสมอ เพราะฉะนั้น... เราเลยจำเป็นต้องกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวโดยการขัด หรือว่าสครับผิวเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำความสะอาดสิ่งสกปรก หรือพวกคราบมันที่อุดตันตามรูขุมขนนั่นเอง.. แต่ถ้าหากเราไม่สครับผิวหน้าเลย ไม่ผลัดเซลล์ผิวเลย จะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส และเกิดริ้วรอยผิวขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน!
รับประทานผักผลไม้ ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณสดใส 6. ไม่สูบบุหรี่ และเลี่ยงการสัมผัสกับมลภาวะต่างๆ เพื่อลดการสัมผัสสารอนุมูลอิสระ ที่เป็นต้นเหตุของผิวหมองคล้ำและริ้วรอยนะคะ 7. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง 8. นั่งสมาธิ หรือ สวดมนต์ เพื่อช่วยให้จิตใจแจ่มใส ผ่อนคลาย แต่ถ้าใครที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำให้เห็นผลรวดเร็วทันใจแล้ว ปัจจุบันมีเทคนิคการรักษาทางการแพทย์หลายวิธี เพื่อปรับผิวให้กระจ่างใส ลดหน้าหมองได้นะคะ ได้แก่ การรักษาด้วยสกินบูสเตอร์ (คลิกอ่านต่อ) การรักษาด้วย เมโสไวท์ (คลิกอ่านต่อ) การรักษาด้วยลำแสง IPL การรักษาด้วยทรีตเมนต์บำรุงผิว การรักษาด้วยเวชสำอาง เพื่อช่วยลดผิวหมองคล้ำ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ร่วมกับมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อให้ผิวกระจ่างใสและมีความชุ่มชื้นค่ะ สอบถามเพิ่มเติม หรือ นัดหมายเข้ารับบริการได้ทาง โทร 02-4260096 facebook: LINE:
เน้นใช้เครื่องสำอางควบคุมความมัน ความมันส่วนเกินบนใบหน้าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เมคอัพที่เราทาต้องหลุดลอกในระหว่างวัน พอเมคอัพไม่ติดทนผิวก็จะดูหมองไม่สดใสสร้างความไม่มั่นใจให้กับสาวๆ เราจึงจำเป็นต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้สาวๆควรเลือกใช้ชนิดควบคุมความมัน เนื้อไม่หนาเหนอะ รองพื้นก็เน้นใช้เนื้อน้ำสูตรบางเบาแล้วปกปิดจุดบกพร่องด้วยคอนซีลเลอร์แต้มเป็นจุดๆ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันที่ดีจะทำให้ผิวของเราติดทนนานไม่ไหลเยิ้ม ลดโอกาสเกิดผิวหมองคล้ำให้เกิดขึ้นได้น้อยลง 3. เซ็ตเมคอัพให้อยู่ติดทน หนึ่งเคล็ดลับของการควบคุมความมันบนผิวหน้าได้อย่างอยู่หมัด คือการปกป้องรองพื้นบนหน้าให้อยู่ห่างจากอากาศร้อนๆให้ไกลที่สุด ถามว่าประเทศไทยเมืองร้อนแบบนี้เลี่ยงได้ไหม ตอบเลยว่ายาก แต่เราก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ด้วยการใส่ใจในขั้นตอนสุดท้ายหลังแต่งหน้าเสร็จลองมาเซ็ตให้อยู่ทนด้วยการปัดแป้งฝุ่นโปร่งแสงฉีดสเปรย์น้ำแร่เพิ่มความชุ่มฉ่ำ แป้งฝุ่นและสเปรย์ที่เราใช้จะช่วยเซ็ตเครื่องสำอางทั้งหมดให้อยู่ทนนาน ลดความมันให้น้อยลง เผยผิวสดใสพร้อมโชว์ลุคสวยได้แบบมั่นใจ 4.
ลองหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวดูบ้าง ด้วยปัจจัยจากอายุที่เพิ่มขึ้น รังสี UV มลภาวะ การพักผ่อนน้อย ผิวขาดน้ำ ผิวระคายเคืองหรือแพ้จนผิวอักเสบ สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการผลัดเซลล์ผิวที่ช้าลง เกิดการสะสมสมของเซลล์ขี้ไคล ทำให้ผิวหมองคล้ำ หยาบกร้าน รูขุมขนกว้าง ไม่กระชับ ดูดซึมครีมไม่ดี ดังนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวจะสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวหน้า ทำหน้าใสได้ค่ะ ซึ่งครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ Vitamin C, AHA หรือ Retinoid จะกระตุ้นวงจรการผลัดเซลล์ผิว และทำให้ร่างกายเร่งสร้างคอลลาเจนขึ้นมาได้ ซึ่งคอลลาเจนถือเป็นสาระสำคัญที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ทำหน้าใส แลดูอวบอิ่มเต่งตึงขึ้นค่ะ 3. ความเครียด ความเครียดนอกจากจะส่งผลต่อสภาพจิตใจและก่อปัญหาต่อสุขภาพร่างกายของเราให้แย่ลงแล้ว การที่เราสะสมความเครียดเอาไว้อยู่ตลอดเวลา จะทำให้ผิวพรรณหมองคล้ำ แลดูไม่มีชีวิตชีวา การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายผิดปกติ ทำให้เกิดสิว และริ้วรอยก่อนวัยได้ค่ะ วิธีจัดการกับความเครียดที่ดี คือ ให้ลองหาวิธีผ่อนคลายสมองด้วยการหยุดพักหลับตาลงเพื่อทำสมาธิทำจิตของเราให้นิ่ง หรือลองทานช็อคโกเล็ตก็สามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดลงได้นะคะ แต่ถ้าหากพอมีเวลาลองออกไปเที่ยวสัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติจะทำให้สมองปลอดโปร่งขึ้น เท่านี้ก็จะช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าลดความหมองคล้ำบนใบหน้าลง ทำหน้าใส ห่างไกลสิว และริ้วรอยได้ค่ะ 4.